วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เทรด forex สไตล์ Simple is the best โดยการเทรดตาม channel Ep1 


Case Study









เทรด forex สไตล์ Simple is the best โดยใช้เทคนิคการ scalping Ep2



case study









วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การถ่ายทอดเชิงปรัชญา

            สมัยก่อนเวลาผมอ่านหนังสือผมมักจะสงสัยว่า ทำไมคนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกไม่เคยบอกวิธีการแบบละเอียดให้เราได้เรียนรู้เลย(คิดในใจว่าเค้ากั๊กรึเปล่าน้า) แต่เขาเหล่านั้นมักจะสอนและถ่ายทอดไปในเชิงปรัชญาซะมากกว่า จนวันที่ผมได้ตกผลึกเองกับตัวจึงเข้าใจแล้วว่า การจะเข้าใจปรัชญาได้อย่างลึกซึ้งนั้นจะต้องเกิดจากการทำมันขึ้นมาเองกับมือ นั่นคือ เรียนรู้โดยการลงมือทำมันซะ!!! คงไม่มีใครหรอกที่นั่งเรียนว่ายน้ำแล้วจะว่ายน้ำเป็นเลยโดยที่ตัวไม่เปียก ซึ่งการถ่ายทอดเชิงปรัญญาแล้วเรานั้นนำไปประยุกษ์ใช้แตกหลักคิดแก่นปรัชญาออกมาเป็นวิธีการอย่างละเอียดนั้นจะดีกว่า เพราะว่าหากถ่ายทอดเป็นขั้นตอนรายละเอียดแล้วนั้นผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดก็จะไปยึดติดกับวิธีการมากจนเกินไป และวิธีการเดิมๆไม่สามารถนำมาใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีกแล้วได้ผลลัพธ์เดิมได้ เพราะเราอยู่ในกฏของโลก ก็คือ กฏของการเปลี่ยนแปลง เกิด ขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ไม่มีอะไรคงอยู่มั่นคงถาวร (อาชีพที่บอกว่ามั่นคง นั้นไม่มีจริงนะครับ มันเป็นการพูดเพื่อให้ดูดีเฉยๆ) กาลเวลาเปลี่ยน สิ่งแวดล้อมก็เปลี่ยน วิธีการก็ต้องเปลี่ยนตามเช่นกัน แต่ปรัชญาที่เป็นแก่นนั้นยังคงอยู่และมีความยืดหยุ่น สุดท้ายแล้วผู้ที่นำไปใช้ก็ต้องเอาไปประยุกษ์ใช้ในแบบฉบับของตัวเอง และสุดท้ายเค้าก็จะมีเส้นทางที่นำไปสู่ความสำเร็จในแบบของเค้าเองเช่นกัน ........สวัสดีวันแม่ครับ ^ ^

วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

คนสองกลุ่ม

เมื่อโลกทุกวันนี้แบ่งคนเป็น 2 กลุ่ม

ผมจะสมมุติว่ามีกลุ่ม A และกลุ่ม B
 และทุกๆครั้งก็จะมีคนบางกลุ่ม(กลุ่มA)ที่กำลังหาปัจจัยในการสร้างและเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างที่เป็นชิ้นเป็นอันอยู่    แต่ก็มีจะมีอีกกลุ่มที่เห็นคนกลุ่ม A พยายามทำอะไรบางอย่าง ซึ่งกลุ่มนี่แหละ(กลุ่มB )เค้าก็จะพยายามหาเหตุผล 108 ประการทุกสิ่งอย่างว่าจะมีปัจจัยหรืออะไรบ้างที่จะบอกว่าสิ่งที่คนกลุ่ม A พยายามสร้างมันทำไม่สำเร็จหรอก     .........................แต่เมื่อระยะเวลาล่วงเลยผ่านไป ไอ้สิ่งที่คนกลุ่ม A ได้พยายามสร้างมันได้เสร็จเป็นชิ้นเป็นอันไปเรียบร้อยละ ในขณะที่กลุ่ม B เมื่อเห็นดังนั้น    เชื่อมั้ยว่าไอ้พวกกลุ่ม B มันก็จะพยายามอธิบายว่าไอ้สิ่งที่กลุ่ม A สร้างนั้นมันสร้างเสร็จได้เพราะอะไรด้วยเหตุผลนานับประการ  .....นั่นแหละครับในขณะที่บางคนทำมันไปจนเรียบร้อยแล้ว แต่ก็มีคนอีกประเภทที่ยังคงไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะมัวแต่อธิบายอยู่นั่นเอง
.
..
....
.......

วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ระบบเทรดและความเชื่อ

ระบบเทรดและความเชื่อ

            บทความนี้ผมจะพูดเกี่ยวกับระบบเทรดและความเชื่อว่ามันมีความสัมพันธ์กันอย่างไร จากประสบการณ์และที่ได้ศึกษามาผมคงต้องบอกกับท่านผู้อ่านว่ามันมีความสัมพันธ์กัน มากๆเลยล่ะ เพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะว่าโดยธรรมชาติ ขอย้ำว่า "ธรรมชาติ" ของมนุษย์เรานั้น กระบวนการของการกระทำนั้นนั้นมาจาก ความเชื่อ และ อารมณ์ ใช่ไม่ผิดหรอกครับ การกระทำของเรานั้นไม่ได้ ถูกขับเคลื่อนออกมาจาก เหตุผล แต่มันเป็นเรื่องของอารมณ์ล้วนๆ 

อารมณ์+ความเชื่อ ===>การกระทำ====>ผลลัพธ์

                     แน่นอนว่าผลลัพธ์จะเกิดไม่ได้ถ้าไม่มีการกระทำ แต่!!! เราจะไม่ยอมทำอะไรเลยถ้าเราขาดความเชื่อ เพราะเราไม่ได้เชื่อมันอย่างฝังจิตฝังใจ ท่านผู้อ่านถึงตรงนี้และผมขอแนะนำให้เปิด youtube แล้วเปิดเพลงความเชื่อ ของ bodyslam คลอตามนะครับ ผมจะยกตัวอย่างนะครับว่าไอ้ความเชื่อเนี่ยมันเป็นยังไง เช่น คนที่อยากมีรายได้เดือนละล้าน แน่นอนครับใครๆเค้าก็อยาก แต่หลายๆคนก็ได้แค่อยากแต่ไม่ยอมมองหาโอกาสแผนการหรือความเป็นไปได้เลยว่าจะทำให้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะความเชื่อที่อ่อนแรงจะไม่ส่งพลังให้คุณยอมลงมือทำ สมองคุณได้ถูกปิดตายไปแล้วครับ เอาใหม่ลองเป็นเงินเดือนหลักแสนดูบ้าง นั่นไงมีหลายคนที่เริ่มมองหอช่องทางและสมองได้ประมวลผลหาวิธีการไปแล้วล่ะว่าจะทำให้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่แน่นนอนกับอีกหลายๆคนที่อ่านอยู่ก็คงมึนตื้อไม่ใช่น้อยและสมองยังถูกปิดตายว่ามันเป็นไปไม่ได้ ...เอาใหม่ เอารายได้เดือนละหลักหมื่นแล้วกัน  แหม!!นั่นไง คิดออกเลยใช่มั้ยละครับว่าจะทำยังไง อารมณ์+ความเชื่อ ระหว่าง การทำเงินเดือนละล้านกับเดือนละหมื่นมันต่างกันมากใช่มั้ยละครับ ไอ้อารมณ์และความเชื่อนี่แหละที่มันผลักดันให้เรากล้าที่จะลงมือทำมันให้เกิดขึ้นจริงๆ 
                     โอเคเข้าเรื่องเทรดกันเลยละกันถ้าให้ผมพูดต่ออีกสองวันก็ไม่จบครับ สำหรับอารมณ์และความเชื่อ  แน่นอนเทรดเดอร์ทั้งหลายทั้งมือใหม่มือเก่าที่ดูแล้วยังรู้สึกไม่สำเร็จหรือยังไม่ผ่านจุด เติบโตของพอร์ทแบบต่อเนื่องไปได้ หลายคนพยายามวิ่งหาระบบ วิ่งหาที่เรียน ที่นู้นว่าดีที่นี่ว่าเจ๋ง คนนู้นเทพ คนนั้นพระเจ้า แต่พอตามไประยะแรกอาจจะออกมาดีแต่พอเทรดไปซักพักสุดท้ายก็กลับมาอิหร็อบเดิม นั่นก็เพราะส่วนนึงคือความเชื่อที่มันได้หายไปครับ(เจือจางลงเพราะไม่มีคนสอนdriveให้) แล้วอีกอย่างหนึ่งคือ จริตของคนเรามันไม่เหมือนกัน ย้ำครับคำว่า "จริต" เพราะถ้าศึกษามาหรือได้อ่านมาท่านก็จะได้เห็นผ่านตามาแล้วล่ะว่าเทรดเดอร์หรือนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จล้วนมักแต่บอกว่า สุดท้ายแล้วเราก็จะต้องหาระบบที่เป็นของเราเองให้เจอ เพราะว่าระบบที่ใช้แล้วประสบความสำเร็จมันต้องตอบสนองต่อความเชื่อและอารมณ์ของเราครับ เพราะว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมันได้ถูก drive หรือถูกผลักดันจากสิ่งเหล่านี้ เพราะถ้าหากเราพยายามเดินตามทางของคนอื่น 100% โอเคถ้ามันถูกกับจริตเราก็ดีไป แต่ถ้าไม่ละเราอาจจะต้องทำการปรับให้เข้ากับเรา ถึงจะเป็นสไตล์ใครสไตล์มันครับ สุดท้ายนี้เพียงอยากจะบอกว่า อย่าไปให้ความสนใจกับสิ่งภายนอกให้เยอะนักเพราะสิ่งที่สำคัญจริงๆคือไอ้สิ่งที่อยู่ภายในครับ....หมั่นดูจิตดูใจตัวเองให้เยอะ ฝึกกับตัวเองให้มากๆอย่าไปไล่ตามคนอื่น แต่จงสร้างสไตล์ของตัวเองขึ้นมา ค้นหาตัวเองให้เจอครับผม

ถ้าพี่น้องตระกูลไรท์ ไม่เชื่อว่ามนุษย์เราบินได้ป่านนี้เราคงไม่มีเครื่องบินให้นั่งกัน
แล้วถ้าพี่น้องตระกูลไรท์เค้าไม่เชื่อว่าบินได้ เค้าก็คงไม่ลงมือทำทั้งๆที่คนทั้งโลกบอกว่าเค้าบ้า

ถ้ามัวแต่เดินตามรอยเท้าของผู้อื่น .............เราก็จะไม่มีรอยเท้าเป็นของตนเอง




วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ความสัมพันธ์ปริมาณLot size กับอารมณ์

                    สวัสดีครับทุกท่านที่อ่าน คิดถึงบล็อกนี้เลยอยากจะเข้ามาเขียน ซึ่งไม่ได้เข้ามาอัพเดทนานพอสมควรคิดถึ๊งคิดถึง โอเคเข้าเรื่องกันดีกว่า
                       หากกล่าวเรื่องของการใช้ Lot size ส่วนใหญ่มักจะไม่พ้นเรื่องของ  Money Management แน่ๆหรือที่เราพูดกันติดปากว่า MM แต่วันนี้ผมจะพูดเรื่อง ของ Lot size กับ อารมณ์ล้วนๆ แน่นอนเราต้องเข้าใจก่อนว่า การกระทำใดๆของมนุษย์นั้น โดยธรรมชาติของมนุษย์ อารมณ์มักจะขับเคลื่อนให้เกิดกระทำ มากกว่า การใช้เหตุผลในการขับเคลื่อนซึ่งให้เกิดการกระทำใดๆ   เทรดเดอร์ทุกคนที่เทรดมาซักระยะแน่นอนจะต้องเจอกับ เรื่องของอารมณ์ ความโลภ และ ความกลัวในการเทรด หลายๆคนมีความรู้ ไม่ว่าจะเป็น Technical System MM News Fundamental อะไรก็แล้วแต่ ที่เป็นองค์ประกอบในความสำเร็จในการเทรด แต่!!! เอ๊ะ มีความรู้ตั้งมากมายทำไมถึงยัง ไม่ success ซักทีหรือลุ่มๆดอนๆ    ครับบทความนี้ผมจะยกเรื่อง ปริมาณ Lot ที่ใช้ว่ามันสัมพันธ์กันอีท่าไหน  ...ท่านลองสังเกตดูนะครับว่าเคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้หรือไม่ ครั้นที่ ก่อนหน้านี้เทรดใหม่ๆความรู้สดๆก็มีผลงานเทรดที่ดี พอร์ทสวย หรือเวลาเล่น พอร์ท demo ก็แทบจะเรียกได้ว่า กูนี่แหละ demo king กันเลยทีเดียว แต่พอจะเทรดจริงๆจังๆทำไมไปได้ไม่ดีเลยแหะ ส่วนหนึ่งเพราะอารมณ์ความโลภที่เกิดโดยที่ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว (ตรงนี้อยู่ที่จิตแล้วล่ะว่า มีสมาธิที่จะสามารถจับจิตหรืออารมณ์ที่เกิดขึ้นทันได้หรือไม่ มีความรู้ตัว ณ ปัจจุบันหรือไม่) ถ้าพูดถึง mm เราก็ต้องบอกว่าเรานั้น over trade มีความอยากได้จนเกินกำลัง หลายๆครั้งเข้าถูกแต่ แต่ก็พาลเจ๊งก่อนราคาจะไปถูกจริงๆตามที่ ออเดอร์ไว้ นั่นแหละครับที่เรียกว่า ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด ถ้าใครเจออีแบบนี้ละก็ ผมอยากจะบอกว่า ......ท่านครับ ลองลด lot size ลงมาซิ         ..................นั่นไงแล้วลองมาดูผลที่เกิดขึ้นครับ  ผลออกมาดีเลยละครับ เพราะ lot size ที่เราใช้นั้นมีความสัมพันธ์ โดยตรงกับอารมณ์ ของเราที่มัน ขับเคลื่อนให้กระทำการใดๆ และส่งผลต่อสติ และสมาธิ มัน drive ขับเคลื่อน โดยที่เราไม่ทันได้รู้ตัวนั่นเอง lot size ที่เราใช้มันบ่งบอกถึงความสมารถทั้ง ความรู้ทฤษฏี ความเชื่อ mind set สติ สมาธิ ที่เรามีอยู่นั่นเอง เพราะฉะนั้นหากเราวิเคราะห์ดังนี้แล้ว ก็ให้เดินทางสายกลาง พัฒนาทรัพยากรในตัวให้โตขึ้น สุดท้ายแล้ว ผมเชื่อว่าพอร์ทของเราก็จะโตตามศักยภาพเราแน่นอนครับ  




"นกน้อย ทำรัง......แต่พอตัว"