วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เทรด forex สไตล์ Simple is the best โดยการเทรดตาม channel Ep3



วิดีโอคลิปนี้ห่างจาก ep2 อยู่ถึง 6 ปีเลยทีเดียว อุปกรณ์อัดอาจจะยังไม่พร้อมบ้างต้องขอภัยนะครับ ยังไงคลิปหน้าจะพัฒนาแน่นอน สำหรับคลิปนี้เป็นการใช้เทคนิคต่างๆอย่างการดูแท่งเทียน fibonacci การเช็ค divergence และการดู channel เพื่อหาจุดเข้าเทรดที่เหมาะสมมีโอกาสชนะมากกว่าแพ้และ risk reward ratio ที่ดีครับ เนื้อหาจะยังไม่ลงลึกนะครับและเหมือนเดิมผมจะพยายามอธิบายให้เข้าใจง่ายให้มากที่สุด สุดท้ายแล้วเพื่อนๆสามารถศึกษาแล้วนำไปต่อยอดใช้เทรดได้ในสนามจริงครับ
ออเดอร์ที่เข้าหลังจากที่อัดสอนลงใน youtube นะครับ ^ ^


เพื่อเป็นกำลังใจในการทำคลิปต่อไป ท่านสามารถสนับสนุนได้ด้วยการสมัครเปิดบัญชีผ่านลิ้ง https://www.exness.com/a/mn6tl9fd 👈🏻 นี้นะครับ ขอบคุณครับ ☺️

วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

"ความสำเร็จ ในแบบของแต่ละคน"

         

           คือผมมานั่งคิดว่า ไอ้ความสำเร็จ เนี่ยมันคืออะไรกันแน่?
แล้วตอนไหนละถึงจะเรียกว่า "ประสบความสำเร็จ" ?
มาตราฐานอยู่ตรงไหน?

แล้วมันเหมือนกันทุกคนรึเปล่า ไอ้ความสำเร็จเนี่ย ?

          ผมเลยมาคิดว่า เฮ้ย!!! ในเมื่อมนุษย์เราแต่ละคน 
มีความแตกต่าง
มีความเป็นอัจฉริยะภาพที่ไม่เหมือนกัน 
เพราะงั้น ไอ้ความสำเร็จ นี่ก็น่าจะไม่เหมือนกัน 
ใครที่บอกว่า จะต้องมีรถแพงๆหรูๆขับ อวดรวย โชว์ของแบรนเนม อยู่ในที่หรูๆ ผมว่างั้นก็ไม่น่าเอามาเป็น reference ให้กับคำว่า " ความสำเร็จ " 
เพราะผมสังเกตเห็นคนในโลกนี้ที่พยายามขับเคลื่อนด้วยระบบทุนนิยม วัตถุนิยม ส่วนใหญ่มักจะลงเอยด้วยตอนจบที่ไม่สวยซักเท่าไหร่ 
ก็เลยมาคิดต่อว่า งั้นที่ว่า" ประสบความสำเร็จ "จริงๆแล้วมันน่าจะเกี่ยวข้องกับ 
" ความสุข " ," ความพอดี " , " ความพอใจในสิ่งที่ตนมี " และที่ขาดไม่ได้คือ " ความรับผิดชอบ "

           ในมุมมองของผมนั้นเห็นว่าการที่คนติดในระบบทุนนิยม ติดในวัตถุ ติดในรูป รส กลิ่น เสียง นั้น มักเป็นผู้ที่ลุ่มหลง มัวเมา อย่างไม่มีที่สิ้นสุด คือ กิเลส เนี่ย มันมีเรื่อยๆไม่จบไม่สิ้น ไม่มีปลายทาง เพราะฉะนั้น หากเห็นแบบนี้แล้วก็พอจะเชื่อมได้ว่า หากยังขับเคลื่อนด้วยทุนนิยม นั้น ยากที่จะเข้าใกล้ ความพอดี และความพอใจ เพราะมันไม่จบไม่สิ้น และเราคงวิ่งไล่หาความสำเร็จอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ถ้างั้น ความสำเร็จ ก็น่าจะหมายถึง คนที่มีความสุข มีความรักความพอใจในสิ่งที่ตนเองมี รู้จักดูแลและรับผิดชอบ ทั้งต่อตนเองและสังคม คือนอกจาก
จะไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนแล้วก็สามารถช่วยเหลือสังคมได้อีกด้วย สุดท้ายแล้วนิยามของความสำเร็จนั้นคงไม่มีรูปแบบที่แน่ชัดและ
ทุกคนคงต้องไปหาความสำเร็จในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งคงไม่เหมือนกัน ไม่มีผิด ไม่มีถูก และเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ ^ ^

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สิ่งที่มืออาชีพและผู้ที่ประสบความสำเร็จ ผู้ที่เคยผ่านจุดสูงสุดบนสายอาชีพให้ความสำคัญ นั่นคือ "ความคิด"



ในวงการเทรดหากพูดถึง idol ระดับโลกแล้วละก็คงจะไม่พ้นสองคนนี้ นั่นคือ ลุงวอเรน บัฟเฟต และลุงจอร์จ โซรอส แต่หากในวงการนักแข่งรถมอเตอร์ไซค์ระดับโลกแล้ว คงไม่พ้นเค้าคนนี้ Valentino Rossi (วาเลนติโน รอสซี)

    Valentino Rossi (วาเลนติโน รอสซี) เป็นนักแข่งรถมอเตอร์ไซค์รุ่นโมโตจีพี (MotoGP) แชมป์โลกหลายสมัยชาวอิตาลี เป็นนักแข่งที่มีผู้คนชื่นชอบเป็นจำนวนมาก ด้วยการขับขี่ที่ดุเดือด และถือเป็นนักแข่งคนหนึ่งที่ทำสถิติแชมป์โลกหลายสมัยใน MotoGP 

      หากเราพูดถึงการเรียนรู้ที่ดีและลัดที่สุด นั่นก็คือการเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น อาจารย์ที่สอนผมสมัยเรียนปริญญาโท หลายๆท่านมักสอนผมว่าหากเราต้องการเป็นแบบไหนให้เรียนรู้กับคนๆนั้นและยิ่งเป็นคนระดับโลกด้วยแล้วละก็ยิ่งดี ตั้งแต่นั้นมาผมก็ยึดหลักคิดนี้มาใช้โดยตลอดและต้องยอมรับเลยละครับว่ามันให้ผลดีอย่างน่าเหลือเชื่อ หลักคิดนี้มีขึ้นมาเพราะว่าต้องการให้ความสำคัญเรื่องของ "เวลา" ทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด และเป็นทรัพยากรหรือจะเรียกว่าเป็นต้นทุนที่ถูกลืมอยู่เสมอ เพราะว่าชีวิตคนเรานั้นมีเวลาอยู่จำกัด ไม่มีใครพ้นเรื่อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่เป็นธรรมชาติของโลกไปได้เลย

       ในวันนี้ผมได้มีโอกาสศึกษาประวัติและเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้ที่ประสบความสำเร็จระดับโลก อย่าง Valentino rossi  ซึ่งผมสามารถสรุปเป็นประเด็นสั้นๆที่แฝงไปด้วย "แก่น" หรือ "เนื้อ" ได้ว่า
       การเรียนรู้ หมายถึงการ ล้ม ในการขับรถแข่งที่ใช้ความเร็วสูง คุณจำเป็นที่จะต้องไปให้เกินขีดจำกัด แล้วคุณจะรู้ว่ามันอยู่ตรงไหน และสิ่งที่คุณจะเลี่ยงไม่ได้เลย นั่นคือ การล้ม  นักแข่งที่ช้าจะไม่รู้เลยว่าตัวเองจะไปได้เร็วแค่ไหน คุณต้องทำ!!! คุณต้องล้ม!!! คุณต้องเรียนรู้จากมันถ้าคุณอยากจะอยู่ต่อ   มันมีนักแข่งหลายคนที่ขี่ได้เร็วแต่ไม่ฉลาด เร็วอย่างเดียวมันไม่พอ คุณต้องมีความลงตัว ระหว่าง ความเร็ว ความกล้า และความฉลาดด้วย หลายคนรู้ทฤษฏี และเทคนิคมากมาย ....มันไม่ใช่เลย  แต่มันเกี่ยวกับ 
" ความคิด " เพราะแบบนั้นจึงมุ่งตรงไปที่ความคิดของนักแข่ง  ซึ่งมันไม่มีวิธีการไหนตายตัว ไม่มีวิธีที่ถูก และวิธีที่ผิด กับการขับขี่เครื่องยนต์ใน MotoGP  เป้าหมายมีเพียงสิ่งเดียวคือ การไปให้เร็วที่สุดและอยู่บนมอเตอร์ไซค์ จะขับยังไงนั้น มัน...ขึ้น...อยู่....กับ....คุณ!!!!

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ประสบการณ์แข่งเทรดเมื่อปี 2013


          ย้อนกลับไปวันที่ 4 February 2013 เป็นช่วงที่ผมได้เข้าร่วมแข่งเทรดของ Broker FIBO ซึ่งการแข่งเทรดในรายการไม่ใช่เป็นครั้งแรกของผม แต่มันเป็นครั้งที่ 20กว่า รึเปล่าผมจำไม่ได้ แต่เป็นครั้งเดียวที่ผมจำได้และประทับใจ เพราะมันเป็นการแข่งครั้งแรกที่ผมได้ที่ 1 ในรายการ ฮ่าๆๆ แอบภูมิใจอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะในรายการแข่งนั้นมีผู้ร่วมแข่งเป็น 1,000 Account แต่เราเป็นคนไทยที่ติดธงชาติไทยไปแปะไว้ได้ในนั้น ประสบการณ์ในช่วงแรกๆที่ผมเข้าแข่งเทรดมักจะเข้าไปติดตามกลุ่มผู้นำ ว่าเค้าเทรดอย่างไร ทำยังไงถึงได้กำไรมหาศาลในระยะเวลาอันสั้น ผมตามแกะรอย History ของชาวต่างชาติเหล่านั้นว่าเค้าทำกันเช่นไร ใช้เทคนิคแบบไหน และเมื่อสังเกตไปเรื่อยๆในการแข่งขันทุกๆรายการก็มักจะพบว่าการ over trade เพื่อแข่งกับเวลาและแข่งกับผู้นำในหัวตารางมักจะทำให้เราสะดุดขาตัวเองในท้ายที่สุด และในทุกๆครั้ง สถิติของผู้ที่ชนะและแพ้ในรายการแต่ละรายการเป็นที่น่าแปลกใจว่า ผู้ชนะมักจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 20% และผู้ที่แพ้รวมไปถึงล้างพอร์ทออกไป มีสัดส่วนอยู่ที่ราวๆ 80% ซึ่งเป็นไปตามทฏษฏีของพาเรโตนั่นเอง  
              คราวนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ที่ผมแข่งได้ที่ 1 ในรายการนี้และทำกำไรอย่างบ้าคลั่งให้ฟัง คือตอนที่เริ่มแข่งผมก็ทำเหมือนอย่างทุกครั้งคือเทรดตามแผนของตัวเอง ( in the zone ) ตามวิธีและคู่เทรดที่ตัวเองถนัดมักคุ้นรวมไปถึงช่วงเวลาเทรดที่เหมาะสม แต่ทุกครั้งมันก็ยังไม่ทำให้ผมชนะการแข่งได้ เต็มที่ก็ไปติด 1 ใน 10 หรือ 1 ใน 20 เท่านั้น  แต่ครั้งนี้ต่างออกไป ผมเข้าไปส่องคู่เงินที่น่าจะมีพฤติกรรมที่มีสภาพตลาดเป็น side way ที่ค่อนข้างนาน และกรอบการวิ่งที่กว้างเมื่อเทียบกับค่า Spread ที่ต้องเสียไป ( ตรงนี้ค่า spread เราต้องมองเป็นต้นทุนนะครับ ซึ่งหลายๆโบรคให้ค่า Spread ไม่เท่ากัน ) นั่นแหละครับครั้งนี้ผมไปเจอ Cross ของ RUB (Russian Ruble) อันนี้ทำให้เห็นว่าการที่เราไม่ยึดติดและคอยสังเกตอย่างชาญฉลาด เป็นคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับเทรดเดอร์ แต่น่าเสียดายหลังจากจบรายการนี้ ทางโบรค FIBO ก็ทำการปิดคู่เงินดังกล่าวไปไม่ให้เทรด ซึ่งผมก็ไม่หยุดที่จะควานหาเพื่อที่จะเทรดจากโบรคเกอร์อื่นเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ไม่มีครับ เพราะนอกจากปิดรับก็มีบางที่เพิ่ม Spread ซะจนเทรดไม่ได้กันเลยทีเดียว วันนี้ขอแบ่งปันประสบการณ์สั้นๆเท่านี้ก่อน หากมีโอกาส จะพยายามมาลงเรื่องอื่นๆในบล็อกบ่อยๆครับ


วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

"เป้าหมายสลักไว้บนหินผา วิธีการสลักไว้บนผืนทราย"


            


                   ไอดอลทางความคิดที่ผมชอบคนนึงที่อยากจะแชร์ให้ฟังนั่นก็คือ บรู๊ซลี!!! บรู๊ซลีเคยกล่าวไว้ว่า เค้าไม่เคยยึดติดกับศิลปะการต่อสู้วิธีใด วิธีหนึ่งเพราะว่าสุดท้ายแล้วมันก็คือการใช้ร่างกายในมุมต่างๆรูปแบบต่างๆ ซึ่งเราอาจจะเรียกแตกต่างกันออกไปว่า มวยไทย มวยสากล ยูโด มวยปล้ำ คาราเต้ แชมโบ บราซิลเลี่ยน ยูยิสสู ฯลฯ (การวางจิตเป็นกลาง ทำให้หัวใจเราพร้อมที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ความรู้ใหม่ๆ ไม่ปิดกั้น ไม่เกิด Ego ไม่เกิด ฐิถิ และไม่ทำให้ปิดกั้นโอกาสดีๆที่จะเข้ามาหา) สุดท้ายมันก็คือการใช้ร่างกายตัวเอง เพื่อต่อสู้ เพียงแต่ชื่อเรียกต่างกันออกไป ผมจึงคิดว่าเราไม่ควรจะยึดติดวิธีการใดวิธีการหนึ่ง เพื่อที่จะไปสู่เป้าหมายที่เราต้องการ สำหรับการเทรด การลงทุนก็เช่นกัน ไม่ควรจะตัดสินแทนผู้อื่นว่าวิธีการนี้ดี วิธีการนั้นไม่ดี วิธีของเราถูก เพราะงั้นวิธีของเธอผิด เพราะเราต่างมีความชอบไม่เหมือนกัน มีความแตกต่าง มีจริต ที่ไม่เหมือนกัน บางครั้งมันเป็นความชอบและความพึงพอใจส่วนบุคคล ไม่มีมีอะไรผิด ไม่มีอะไรถูก ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบแบบไหน ตรงไหนถูกจริตเรา ทำแล้วมี " ความสุข " อันนี้สำคัญ 

( ถ้าลองเทรดแล้วอึดอัด ไม่มีความสุข ก็ลองเปลี่ยนวิธีการอื่นๆก็ได้ครับ หรือถ้าไม่โอเคจริงๆก็ลองเปลี่ยนอาชีพที่ได้ทั้งเงินและความสุขซึ่งใครจะไปรู้กับเราละว่าเราชอบเราถนัดแบบไหนไม่ต้องไปยึดติดครับ ชีวิตเราสั้น เกิด แก่ เจ็บ ตาย เลี่ยงยังไงก็ไม่ได้ แข่งกับเวลาแล้วหาตัวเองให้เจอ แล้วลุยให้เต็มที่ครับ บางทีจริงๆแล้วเราอาจจะเป็นนักร้องระดับโลกก็ได้นะ 555 ) 

             เราต้องหันมาตระหนักถึงการเข้าใจตนเอง เข้าใจโลกภายในของตนเอง เข้าใจความคิดและแนวคิดที่ถูกต้อง การที่เราวนเวียนแต่ศึกษาเรื่องภายนอก มองหาแต่เทคนิคและวิธีการที่ยอดเยี่ยมที่สุดบนโลก (ไม่รู้จะมีจริงๆหรือเปล่า) จนลืมเรื่องวิธีคิด ทั้งๆที่ความคิดเป็นสิ่งที่กำหนดและนำพาไปสิ่งที่ถูกต้อง หลายครั้งการเทรดในตลาดหุ้นเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจ ทั้งๆที่เรียนมาเหมือนกัน กราฟเหมือนกัน เทคนิคเดียวกัน นั่งเทรดข้างๆกัน คนนึงกลับขาดทุน คนนึงกลับได้กำไร คนนึงโทษกราฟ คนนึงบอกว่าตัวเองพลาดเองต้องปรับปรุงแก้ไข สรุปแล้ว อะไรคือปัจจัยที่ทำให้คนทั้งสองคนนี้มีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันแน่ แม้แต่การใช้โรบอทเทรด อันนี้ผมก็เห็นมีกับตา โรบอทตัวเดียวกัน โบรคเหมือนกัน ตลาดเดียวกัน กราฟเหมือนกัน แต่ทำไมคนนึงทำกำไร คนนึงขาดทุน สิ่งที่ผมเห็นรูปแบบและเหตุการณ์ที่ซ้ำๆกันนี้เกิดขึ้นในช่วงชีวิตที่ได้เห็นในวงการนี้ ทำให้ตระหนักเป็นอย่างมากกับเรื่องของความคิด ซึ่งเป็นต้นตอของทุกสิ่ง วันนี้ผมจึงอยากเชิญชวนให้เรามานั่งคุยกับตัวเอง และศึกษาใจของตัวเองกันอีกซักครั้งนะครับ ว่าจิตใจและความคิดเราตอนนี้ ถูกจัดเรียงกันยังไง เพราะข่าวดีที่สุด คือ เราสามารถแก้ไขและพัฒนาตัวเองได้อยู่เสมอๆ ครับ 

วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2558

"ดูหนังหนังจีนสะท้อนนักลงทุน"

                     จากหนังจีนสุดฮิตที่นำมารีเมคใหม่อยู่หลายภาค อย่าง เรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้า (จีนแต้จิ๋ว: เทียนเล้งโป๊ยโป๋ว ; จีนกลาง: เทียนหลงปาปู้ ; อังกฤษ: Demi-Gods and Semi-Devils) เป็นสุดยอดนิยายกำลังภายใน จากปลายปากกาของ กิมย้ง นักเขียนยุทธจักรนิยายชาวฮ่องกง ซึ่งนิยายเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้าถือเป็นนิยายอมตะชิ้นยอดอีกชิ้นหนึ่งของ กิมย้ง 


ความสนุกสนานของตัวละครในเรื่องนี้ มีมากมาย แต่ละตัวละครล้วนมีสีสัน และบุคลิกเป็นของตัวเอง 

ต้วนอี้ เป็นตัวละครที่มั่นคงในความรัก แม้ว่าความรักในหลายครั้งอาจจะถูกชะตากรรมเล่นตลกจนพบรักกับน้องสาวต่างมารดาของ ตัวเองก็ตาม แต่หลังจากที่เขาได้พบกับ หวังหวี่เอียน  แล้ว ก็ตามรักนางอย่างมั่นคง แม้ว่านางจะรักอยู่กับ มู่หยงฟู่ ก็ตาม จนท้ายที่สุด ต้วนอี้ก็ได้ครองคู่อยู่กับ หวังหวี่เอียน จึงกล่าวได้ว่า ต้วนอี้เป็นตัวแทนของสุขนาฏกรรม 

            ในขณะที่ เฉียวฟง กลับเป็นตัวแทนของโศกนาฏกรรม ชีวิตของเขาต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงมากมายหลังจากที่รู้ชาติกำเนิดของตัวเอง และต่อมาก็พลั้งมือสังหาร อาจู หญิงผู้เป็นที่รัก และต้องหาทางห้ามสงครามระหว่างเมืองเหลียว เผ่าของตน กับ เมืองซ่ง ที่เป็นถิ่นเลี้ยงเขามาจนเติบใหญ่ ท้ายที่สุดกลับต้องตัดสินใจ ฆ่าตัวตายเพื่อยุติสงคราม 

           ซีจู๋  คือ ตัวละครที่พบกับความบังเอิญ และโชคช่วยตลอดเวลา นับตั้งแต่ได้รับการถ่ายทอดพลังการฝึกปรือจาก อู๋หยาจือนางเฒ่าทาริกาแห่งเทียนซาน และ หลีชิวสุ่ย จนกลับกลายได้เป็นประมุขแห่งวังคฤธรศักดิ์สิทธิ์ จนท้ายสุดได้เป็นราชบุตรเขยซีเซี่ย 


            มู่หยงฟู่ เป็นตัวแทนของความโลภ ความแค้น และการต้องการที่จะเป็นใหญ่ เขาทำทุกอย่างเพื่อที่จะกู้เมื่อเยี่ยน จนกระทั่งต้องสูญเสียคนที่อยู่รอบข้างไปจนหมด 
              
             จิวหมอจื้อ ที่ทำทุกอย่างเพื่อฝึกพลังฝีมือ เซียวเยี่ยนซาน ผู้พกพาความแค้นมานับสิบปี เยรูหงจี ผู้มักใหญ่ใฝ่สูง 

จากตัวละครที่กล่าวมาสุดท้ายแล้ว จุดจบของ มู่หยงฟู่ และ จิวหมอจื้อ ผู้ที่ไล่ล่าหาวิชาทั่วยุทธภพ ฝึกทุกวิชาที่ยอดเยี่ยมของแต่ละสำนัก ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับ เฉียวฟง ซีจู๋  และต้วนอี้ ที่เก่งเพลงยุทธของตัวเองและฝึกฝนจนชำนาญ ก็ไม่ได้ต่างจากนักลงทุนที่เที่ยวร่ำเรียนวิชาของทุกสำนักที่ไหนว่าดี คนไหนว่าเก่ง ก็แห่ไปเรียนไปตาม แต่สุดท้ายแล้วกับการลงทุนก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้นึกถึงคำกล่าวที่ว่า กระบี่อยู่ที่ใจ หากเยี่ยมยุทธแล้วไซร้ แม้กิ่งไผ่ก็ยังไร้เทียมทาน "
ตัวละครหลักทั้ง 5 คนนั้นได้รับ อุปสรรค และได้เจอความเจ็บปวด ไม่ต่างกัน แต่ที่ต่างกันคือ หลังจากเจอเรื่องราวอันโหดร้ายที่บั่นทอนชีวิต ทั้ง 5 นั้นมีทัศนคติ ที่แตกต่างกัน วิธีการแก้ไข ในเส้นทางที่ต่างกัน จึงทำให้ผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็แตกต่างเช่นเดียวกัน หากผู้อ่านได้อ่านหรือดูเรื่องราวของหนังอย่างละเอียดแล้วก็จะเห็นว่า ทัศนคติที่ดีก็เหมือน มีเข็มทิศที่ดี นำไปสู่เป้าหมาย หรือผลลัพธ์ที่ดี  
ผมขอยกคำพูดของ โทนี่ คริสเตียนเซน  นักพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจชั้นนำของโลก ซึ่งเค้าได้กล่าวว่า ...Your Attitude is Everything "  

สุดท้ายแล้วอยากบอกว่าถ้าหากเราเดินผิดทางหรือหลงทางในการลงทุน เราคงต้องหยุดตามหาเคล็ดวิชาของทุกสำนักแล้วกลับมาเช็ค ทัศนคติ (Attitude)  ของเรากันใหม่ดีกว่าครับ :)  









เรื่องย่อ

           8 เทพอสูรมังกรฟ้า เป็นเรื่องราวในช่วงสงครามระหว่างแคว้นต้าซ่งและแคว้นเหลียว ทั้งสองแคว้นทำสงครามต่อเนื่องยาวนานจนปลูกฝังเป็นความแค้นลึกล้ำระหว่างเมืองทั้งสอง ในยุทธจักรมีคำกล่าว"เฉียวฟงเหนือ มู่หยงใต้" เค้าลางแห่งความวุ่นวายเริ่มปรากฏขึ้นเมื่อเฉียวฟงประมุขพรรคกระยาจกถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรสังหารรองประมุขพรรคกระยาจกหม่าต้าหยวนและยังถูกเปิดโปงว่าเป็นชาวซิตัน ด้วยกระแสชาตินิยมจึงทำให้เฉียวฟงต้องออกจากพรรคกระยาจก เฉียวฟงออกสืบหาความเป็นมาของตนเองเพื่อจะหาผู้ที่ชาวยุทธ์เรียกขานว่า"ผู้นำผู้ยิ่งใหญ่"ผู้ที่สังหารบิดามารดาที่แท้จริงของตนเองจนกระทั่งพบว่าตนเองนั้นเป็นชาวซิตันแซ่เซียว เฉียวฟงจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นเซียวฟง แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรจนเซียวฟงถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้สังหารบิดามารดาบุญธรรมและอาจารย์ของตน แต่ยังมีผู้หนึ่งที่อยู่เคียงข้างเซียวฟงตลอดนั่นคืออาจูผู้เป็นสาวใช้ของจอมยุทธ์ใต้มู่หยงฟู่ แต่โศกนาฏกรรมก็เกิดขึ้นจากความแค้นของเซียวฟงจนทำให้เกิดเรื่องราวอันน่าสลด สุดท้ายเซียวฟงได้ช่วยเหลือเยลู่กีฮ่องเต้ซิตันจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นไต้อ๋องแห่งแคว้นเหลียว ณ เมืองต้าหลี่ ต้วนอี้บุตรชายอ๋องเจิ้นหนานต้วนเจิ้นฉุนแห่งต้าหลี่ได้หนีออกจากบ้านเนื่องจากถูกบิดาบังคับให้ฝึกวิทยายุทธ์ แต่ต้วนอี้ฝักใฝ่ทางธรรมมากกว่า แต่สุดท้ายก็ตกกระไดพลอยโจนได้ฝึกสุดยอดวิชาพรรคสราญรมย์และวิชาดรรชนีกระบี่หกชีพจรจนกลายเป็นยอดฝีมือ แต่ด้วยการที่ต้วนอี้ไม่มีพื้นฐานวรยุทธ์ จึงทำให้ยอดวิชาใช้ออกได้เป็นบางครั้งบางคราว ภายหลังต้วนอี้ถูกจิวม่อจื้อราชครูแค้วนถู่ฟานจับตัวไป จนเป็นสาเหตุให้ต้วนอี้ต้องเข้ามาพัวพันกับความวุ่นวายในยุทธจักรจนกระทั่งได้สาบานเป็นพี่น้องกับเซียวฟงและได้พบรักกับหวังอวี่เยี่ยน แต่ในใจหวังอวี่เยี่ยนนั้นรักเพียงญาติผู้พี่นามมู่หยงฟู่แห่งกูซูผู้ได้รับการขนานนามเป็นจอมยุทธ์ใต้เทียบเคียงกับเซียวฟง แม้ต้วนอี้จะไม่ได้รับรักตอบแต่ก็มีความพยายามติดตามมู่หยงฟู่และหวังอวี่เยี่ยนต่อไป
มู่หยงฟู่เป็นทายาทเชื้อพระวงศ์แค้วนต้าเยี่ยนที่ถูกกลืนโดยแค้วนต้าซ่ง ด้วยเหตุนี้มู่หยงฟู่จึงได้รับการปลูกฝังจนมีปณิธานที่จะกู้ชาติ มู่หยงฟู่ศึกษาวิชาดาวเคลื่อนดาราคล้อยและรอบรู้วิทยายุทธ์หลายสำนัก เขามักจะคบหากับชาวยุทธ์เพื่อจะหากำลังมากอบกู้เมืองเยี่ยนของตน ในอีกด้านหนึง อิ้วถานจื่อผู้เป็นบุตรชายของเจ้าบ้านทั้งสองแห่งหมู่บ้านผู้กล้าต้องออกเร่ร่อนตามล้างแค้นเซียวฟงไปถึงแคว้นเหลียว เหตุเนื่องจากเซียวฟงพาอาจูไปหาหมอเทวดาที่หมู่บ้านผู้กล้าและได้ปะทะกับชาวยุทธ์จนเป็นสาเหตุให้เจ้าบ้านผู้กล้าทั้งสองต้องจบชีวิตลง แต่อิ้วถานจื่อถูกทหารซิตันจับมาได้และได้มาพบกับเซียวฟง อิ้วถานจื่อบังเอิญเก็บคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นที่เซียวฟงทำตกไว้ได้และได้หลงรักอาจื่อผู้เป็นน้องสาวอาจูโดยบังเอิญ แต่อาจื่อผู้มีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตได้นำหน้ากากเหล็กที่เพิ่งหลอมเสร็จมานาบหน้าของอิ้วถานจื่อจนเชื่อมติดเป็นเนื้อเดียวกัน แต่กระนั้นอิ้วถานจื่อก็ได้ติดตามรับใช้อาจื่อด้วยความภักดี อาจื่อมักจะให้สัตว์พิษกัดอิ้วถานจื่อเพื่อฝึกวิชา อิ้วถานจื่อจึงฝึกคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นเพื่อขับพิษจนกลายเป็นยอดฝีมือ อิ้วถานจื่อได้รับการสนับสนุนจากฉวนกวนชิงแห่งพรรคกระยาจกจนได้เป็นประมุขพรรคกระยาจกคนใหม่ อิ้วถานจื่อถูกยุยงให้ท้าประลองกับวัดเส้าหลินเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดงานชุมนุมชาวยุทธ์ในวัดเส้าหลินขึ้น ฝ่ายหลวงจีนน้อยวัดเส้าหลินนามซีจุ๊นำเทียบเชิญไปส่งให้เหล่าชาวยุทธ์และได้บังเอิญเข้าร่วมงานหมากล้อมและได้พบกับยอดฝีมือหลายคนรวมทั้งต้วนอี้ ซีจุ๊บังเอิญแก้กลหมากล้อมของอู๋หยาจื่อได้ เขาจึงได้รับการถ่ายทอดพลังเจ็ดสิบปีจากอู๋หยาจื่อและได้รับตำแหน่งเจ้าสำนักสราญรมย์ต่อจากอู๋หยาจื่อ ซีจุ๊ทำตามคำสั่งเสียของอู๋หยาจื่อจนได้เข้าไปพัวพันกับความแค้นของนางเฒ่าทาริกาเทียนซานและหลี่ชิวสุ่ย ทั้งสองได้ต่อสู้กันจนตกตายตามกัน ก่อนตายนางเฒ่าทาริกาได้มอบตำแหน่งเจ้าสำนักเทียนซานให้ซีจุ๊ ซีจุ๊ได้ฝึกวิชาสำนักสราญรมย์และเทียนซานจนแตกฉานกลายเป็นยอดฝีมือ ภายหลัง เซียวฟง ซีจุ๊ และต้วนอี้ได้ร่วมสาบานเป็นพี่น้องกัน ซีจุ๊ได้อภิเษกกับองค์หญิงแห่งซีเซี่ย ต้วนอี้ได้เป็นฮ่องเต้แห่งต้าหลี่และอภิเษกกับหวังอวี่เยี่ยน แต่สำหรับเซียวฟง มู่หยงฟู่ และอิ้วถานจื่อนั้นจบลงด้วยโศกนาฏกรรม มู่หยงฟู่ทำการกู้ชาติไม่สำเร็จจนสติฟั่นเฟือน อิ้วถานจื่อต้องพิการและเสียชีวิตเพื่อสังเวยความรักอันบริสุทธิ์ที่มีต่ออาจื่อ ส่วนเซียวฟงนั้นต้องเสียสละตนเองเพื่อให้แคว้นซ่งและเหลียวทั้งสองแคว้นยุติสงครามไม่รุกรานต่อกัน 
(ที่มา:http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2)








วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ทัศนคติที่ถูกต้องจะเอื้อให้การลงทุนประสบความสำเร็จ

ทัศนคติที่ถูกต้องจะเอื้อให้การลงทุนประสบความสำเร็จ

--------------------------------------------------------
             ทำไมผมถึงบอกแบบนั้น ผมจะถามว่าเพื่อนๆเคยรู้จักคนที่ทำอะไรก็ไม่เคยยอมรับผิดเลยรึเปล่าครับ คนที่ตัวเองทำผิด แต่มักจะโทษแต่คนอื่น คนแบบนี้เป็นคนที่ไม่ยอมรับข้อเสียหรือข้อผิดพลาดของตัวเอง และคนแบบนี้แหละเค้าจะไม่สามารถพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นได้ ไม่สามารถแก้จุดเสียของตัวเองได้เลย หากใครก็ตามที่มีลักษณะเข้าเค้าแบบนี้ ผมกล้าการันตีได้เลยว่า ไม่มีทางเลยที่จะประสบความสำเร็จในด้านการลงทุนอย่างเด็ดขาด เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะว่า...คนที่ยอมรับความผิด ยอมรับว่าตัวเองตัดสินใจผิดพลาด เค้าจะกล้า cut loss แต่คนที่ไม่ยอมรับเค้าจะถือต่อ ทั้งๆที่การลงทุนนั้นผิดทาง (กล้าถือหุ้นติดลบ,ตัวแดง) แล้วเค้าก็จะเชื่อว่ามันจะกลับมา (มโนเข้าข้างตัวเองโดยไม่มองความเป็นจริง) บอกว่าตัวเองไม่ผิด ทำให้สุดท้ายขาดทุน และเสียโอกาสแทนที่จะ cut loss แล้วนำเงินไปลงทุนในหุ้นตัวอื่นที่มีอนาคต ผลตอบแทนที่ดีกว่า  สำหรับคนที่กล้า cut loss ก็เหมือนคนที่ยอมรับข้อเสียของตัวเอง และรู้จักให้อภัยตัวเอง พร้อมที่จะแก้ไขในสิ่งผิด กล้ายอมรับ กล้าแก้ไข นั่นเอง